บทคัดย่อ :
ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการนิเทศภายในโรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
ผู้ศึกษา นายอนุสิทธิ์ ศรีฤ.าชา
หน่วยงาน โรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
ปีที่ศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินโครงการพัฒนาระบบการนิเทศภายในโรงเรียนปทุมรัตต์
พิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด ผู้ศึกษาได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการและ
รูปแบบการประเมินของดาเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม แบบจำลองซิปป์ เป็นแบบในการดำเนินการพัฒนาและ
ประเมินโครงการ ใน 4 ด้าน คือ ด้านความพร้อมในการดำเนินการนิเทศภายใน ด้านความเหมาะสมของ
กระบวนการนิเทศภายใน ด้านผลผลิตของการนิเทศภายใน และด้านความพึงพอใจที่มีต่อพฤติกรรม
การจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษา
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 132 คน และ
นักเรียน จำนวน 317 คน ซึ่งได้มาโดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และ
มอร์แกน แล้วทำการสุ่มแบบชั้นภูมิอย่างเป็นสัดส่วน ตามระดับชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
เป็นแบบสอบถามฉบับที่ 1 มีค่าความเชื่อมั่น 0.902 และฉบับที่ 2 มีค่าความเชื่อมั่น 0.912 การวิเคราะห์
ข้อมูลจากแบบสอบถามใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
แบบสอบถามฉบับที่ 1 ในวงจรที่ 1 1) ความพร้อมในการดำเนินการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมาก 2) ความเหมาะสมของกระบวนการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมาก 3) ผลผลิตของการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมาก 4) ความพึงพอใจที่มีต่อพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อยู่ในระดับมาก แบบสอบถามฉบับที่ 2 ในวงจรที่ 1 ความพึงพอใจที่มีต่อพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามความคิดเห็นของนักเรียน อยู่ในระดับมาก แบบสอบถามฉบับที่ 1 ในวงจรที่ 2 1) ความพร้อมในการดำเนินการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ความเหมาะสมของกระบวนการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลผลิตของการนิเทศภายใน อยู่ในระดับมากที่สุด 4) ความพึงพอใจที่มีต่อพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด แบบสอบถามฉบับที่ 2 ในวงจรที่ 2 ความพึงพอใจที่มีต่อพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามความคิดเห็นของนักเรียน อยู่ในระดับมาก
|