อ้างอิงกระทู้ (Quote Tpoic ID) 7759 โพสแล้ว (By) วว :
3 แต้มของ แมนฯยูไนเต็ด ในสงครามกุหลาบ “เลก 2” ในรอบ 4 วัน ทำให้ผมนึกถึงคลิปแฟน เชลซี ร่วงลงไปกองกับพื้นจนเป็นไวรัลเมื่อวานนี้
แฟน ”สิงห์บลู” เย้ยหยันใส่แฟน เวสต์แฮม ทั้งแลบลิ้นปลิ้นตาชี้หน้าเยาะเย้ยอย่างเมามันแต่ชั่วพริบตาเจอหมัดสวนเปรี้ยงเดียวแบบไม่ทันตั้งตัว หลับกลางอากาศ
แอดที่นอน “ซาติน” เข้าทันที!!
เข้าสุภาษิตไทยพูดน้อยต่อยหนัก คิดจะออกหมัดรัวๆแต่มีแค่ปริมาณไร้คุณภาพ
ครับ ลีดส์ ยูไนเต็ด วันนี้ต่างจากเกมที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อพวกเขาไม่มีประตู “สั่งได้” แบบที่เคยยิงทั้งต้นครึ่งแรกและต้นครึ่งหลัง (แต่เกือบได้ตั้งแต่นาทีที่ 4 ในเกมนี้)
แม้จุดเด่นที่พวกเขาใช้เล่นงานทีมอื่นและ “ปีศาจแดง” ในเกมเมื่อกลางสัปดาห์ยังเข้มข้นไม่ต่างจากเดิม
ดีกรีความดุในการเข้าบอลดูโหดกว่าเดิมเมื่อมีเสียงเชียร์ในบ้าน ตรงนี้แหละครับที่ผมมองว่าชัยชนะ 2-0 แบก 3 แต้มออกจาก เอลแลนด์โร้ด ของ ยูไนเต็ด โคตรหอมหวาน
จริงๆแล้วถ้าเรามองกันดีๆ “ยูงทอง” เหมือนเป็นฝ่ายกำหนดทิศทางของเกม เป็นผู้ริมเริ่มจัดเกมรุกเหมือนที่เราเคยเห็นมาแต่โอกาสที่ได้มาส่วนใหญ่จะเน้นปริมาณแต่แทบไม่มีจังหวะเหน่งๆ
ตรงกันข้ามทีมเยือนที่เหมือนหลังพิงเชือกแต่พอโอกาสแต่ละครั้งที่ได้มาออกแนวล่อเป้าทั้งนั้น
เอาแค่ บรูโน่ คนเดียวในครึ่งแรกก็ 3 หนไม่ว่าตอน ซานโช่ ไหลมาให้ยิงแต่แป๊ก, ยิงชิพหน้าเขตโทษแต่ติดแขนผู้เล่น ลีดส์ และทดเจ็บครึ่งแรกหลุดเดี่ยวยิงติดเซฟ
เกมแรกไม่แพ้คาบ้านไล่ตามตีเสมอ 2-2 แต่การออกมาเยือนหนนี้เราจะเห็นได้ว่า แมนฯยูฯ เจียนอยู่เจียนไปโดยเฉพาะช่วงต้นครึ่งหลังที่ถูกกดและขึงเกือบข้างเดียว
การที่ ยูไนเต็ด เข็นตัวเองออกจากขุมนรกช่วงต้นครึ่งหลังได้เป็นชีวิตหลังความตายอย่างแท้จริงและต้องบอกว่าการบุกมันได้ใจพี่น้องผองเพื่อนแต่ไม่ยอมจบสกอร์เป็นเครื่องหมายการค้าของ “ยูงทอง” ที่ทำให้พวกเขาไม่ชนะใครมา 8 นัด (รวมเกมนี้ 9)
การเสียบอลเละเทะหน้าเขตโทษตัวเองหลายต่อหลายหนถ้าไม่มี ดาบิด เดเกอา ป่านนี้ “ยูงทอง” ขึ้นนำและคาดว่าน่าจะชนะไปแล้ว
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ได้ลงสนามตามนโยบาย “โรเตชั่น” ของ เอริค เทน ฮาก กลายเป็นจุดอ่อนเพราะคิดช้าทำช้า สร้างความกังวลให้แฟนบอลที่อยู่ในสนามและหน้าจอทีวี แกไม่เหมาะกับเกมที่เจ้าบ้านเพรสไวและหนักเอาซะเลย
กว่า “ปีศาจแดง” มีโอกาสลุ้นทำประตูหนแรกในครึ่งหลังก็ปาเข้าไปนาที 60 ต้นๆ (ดาโลท์ ซัดชนคาน)
แต่เหนืออื่นใดการแก้เกมของ ETH นำมาซึ่งประตูปลดล็อกก่อนหมดเวลา 10 นาทีก่อนจะไหลรัวๆ 5 นาทีต่อมาจาก “ซูเปอร์ซับ” การ์นาโช่ ที่แข้งขาสดกว่าวิ่งแซง โรบิน คอช ที่ล้ามาเกือบ 90 นาทีแบบเห็นๆ
การส่ง มาร์ติเนซ ลงมายืนเซนเตอร์และถ่าง ชอว์ ออกมาเล่นแบ็คทำให้แข้งทีมชาติ อังกฤษ ใช้ลูกเก่งคือการครอสที่เหมาะเหม็งให้ แรชฟอร์ด โหม่งทำประตูซึ่งตลอด มาลาเซีย ทำไม่ได้ตลอด 61 นาทีที่อยู่ในสนาม
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอชม ชอว์ ที่เอาบอลจังหวะเดียวได้เนียนสุดๆแถมฉลาดใช้ตัวบังเพื่อไม่ให้ ซัมเมอร์วิลล์ ที่เข้ามาอย่างไวแย่งได้อีกต่างหาก
กระบวนการที่กินเวลา 5 วินาทีเริ่มจาก ซาบิทเซอร์ เปิดยาวมาให้และ ชอว์ เอาลงก่อนครอสปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่ได้ทักษะและความนิ่งของแบ็คเจ้าเนื้อผู้นี้ผมคิดว่าจังหวะนี้ไม่เกิดขึ้นแน่นอน
การยกระดับฟอร์มของผู้เล่นบางคนจากเกมแรกก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ยูไนเต็ด เอาชนะในเกมนี้คือทั้ง เฟร็ด และ เวกฮอร์สต์
คนแรกขยันและสกรีนบอลจากการบุกของแข้งเจ้าถิ่นได้ดีสุดๆจนได้ MOM ในขณะที่คนหลังซึ่งเกมเมื่อกลางสัปดาห์โดนถอดออกตั้งแต่นาที 59 เพราะแทบไม่มีส่วนร่วมใดๆ
แต่เกมนี้การลงมาล้วงบอลต่ำช่วยทำให้เกมของ “ปีศาจแดง” เชื่อมกับกลางได้ดีมากๆทั้งจังหวะพักบอลและออกต่อให้เพื่อนเติมขึ้นมา
ด้วยการเล่นลักษณะนี้ชาวดัทช์วัย 30 ปีจึงได้ 1 แอสซิสต์ จากการรับบอลจาก เฟร็ด และแปชิ่งจังหวะเดียวตรงกลางสนามให้ การ์นาโช่ หลุดยาวเข้าไปยิง
เป็นประตูที่คว้าชัยและดับฝันผู้เล่น “ยูงทอง” ที่กำลังโหมจะตีเสมอจากเวลาที่ยังเหลือๆอีกเกือบ 10 นาที (รวมทดเจ็บ)
ถึงแม้เป้าหมายลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยูไนเต็ด ยังขอเป็นผู้ “สังเกตการณ์” แต่การพลาดของ อาร์เซนอล เมื่อวันเสาร์ทำให้แต้มยังไม่หนีไปไหนไกล (5 แต้ม) แม้เสียเปรียบที่ลงเล่นมากกว่า 2 นัด
แต่ชาเลนจ์ดังกล่าวบั้นปลายจะเป็นอย่างไรพูดได้ว่าเป็นแค่ icing on the cake ของพลพรรค “ปีศาจแดง” เพราะเป้าหมายจริงๆคือ top 4 กลับสู่เวที UCL หนีคืนวันพฤหัสให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก...
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa