[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
 
 
 
เมนูหลัก
กลุ่มสาระการเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 

ลิงค์ที่น่าสนใจ

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
ลิเวอร์พูล สุดฮอตบุกอัด เลสเตอร์ เฮในลีก 7 เกมรวด  VIEW : 31    
โดย W

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 113
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 8
Exp : 58%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 30 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 08:33:30   

 

หงส์แดง ฟอร์มเร่าร้อนบุกไปอัด เลสเตอร์ สิตี้ 3-0 ซาลาห์ จ่ายสามให้ โจนส์ กดเบิ้ล ก่อน เทรนต์ ซัดฟรีคิกสุดสวยปิดกล่อง มีเพิ่มเป็น 65 แต้ม ยึดที่ 5 จักจี้ท็อปโฟร์แต้มเดียว แต่ว่าแข่งขันมากยิ่งกว่าหนึ่งเกม ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" จมรองบ๊วยหนีตกชั้นอีกสองเกมที่เหลือ ในศึกบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

เลสเตอร์ ของผู้จัดการทีมฟุตบอล ดีน สมิธ พาทีมออกไปแพ้ให้กับ ฟูปาดม มาในเกมปัจจุบัน 3-5 ทำให้ 3 เกมหลังสุดแพ้คนใดกันเลย ทางฝั่ง พบร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอล หงส์แดง นำกลุ่มคว้าชัยมา 5 นัดหมายรวด ปัจจุบันเปิดบ้านแทรก เบรนท์ฟอร์ด มา 1-0 ในเกมปัจจุบัน

เปิดตัวครึ่งแรก 5 นาที "จิ้งจอก" ทักก่อนจากจังหวะฟรีคิกทางขอบเส้นฝั่งซ้าย เจมส์ แมดดิสัน หยอดโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาแทบถึง จอนนี่ อีแวนส์ แรงหลุดออกข้างหลังเล็กน้อย

นาทีที่ 13 จากบอลสวนกลับทางฝั่งซ้าย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ พาบอลหนีขึ้นมาจักจี้เข้าจุดโทษแทงมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดกับล้ำหน้าใส่มาตวัดยัดมุมแคบติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์

30 นาทีผ่าน "ลิเวอร์พูล" มานะเร่งเครื่อง เคอร์ตำหนิส โจนส์ พาบอลแหวกเข้าจุดโทษฝั่งขวาดึงแนวรับ เลสเตอร์ ดีดย้อนตั้งให้ ฟาบินโญ่ ขยับหาช่องอัดด้วยขวาบินผ่านคานออกไปไกล

แม้กระนั้นแล้ว 3 นาทีถัดมา หงส์แดง ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะติดต่อประสานงานสุดงาม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลาฝั่งขวาชูเข้าจุดโทษผ่านมาให้ เคอร์ตำหนิส โจนส์ ใส่มาซัดหน้ากรอบ 6 หลาตุงตาข่าย ผู้ตัดสิน คอยเช็ค วีเออาร์ อยู่นานเพราะจังหวะแรกของ หฝ่าส์ ดิอาซ ที่มีส่วนร่วมกับประตูราวกับยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าในที่สุดไม่มีปัญหารับรองให้เป็นสกอร์

นาทีที่ 36 หงส์แดง ขยับหนีเป็น 2-0 อย่างเร็วจากบอลขึ้นเกมทางฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ติดเร็วมอบพานให้ เคอร์ว่ากล่าวส โจนส์ กลับเข้าจุดโทษซัดผ่าน ดาเนียล ไอเวอร์สังเวย ตุงตาข่าย

จากจังหวะนี้ ผู้ตัดสิน ก็ยังจะต้องคอยเช็ค วีเออาร์ จะต้องมาขีดเส้นมองเท้าของ เคอร์ตำหนิส โจนส์ แล้วก็ย้อนไปมองลูกจ่ายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ท้ายที่สุดวิ่งมาชี้ให้เป็นประตู

ถัดมานาทีที่ 39 กลุ่มเยี่ยม ไม่คอยช้ารีบเจาะทางฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลแหวกเข้าจุดโทษตบเข้าในให้ วัวดี้ กัคโป ซัดไปติดเซฟ ดาเนียล ไอเวอร์บวงสรวง ออกมาขวางได้ทัน

หมดครึ่งเวลาแรก เลสเตอร์ 0 หงส์แดง 2

ช่วงหลัง นาทีที่ 50 เลสเตอร์ เฉียดงานเข้า ดาเนียล ไอเวอร์สังเวย ออกมาไกลจากประตูกะจังหวะบอลพลาดไปตกใส่หัว วัวดี้ กัคโป โชคดีเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มไม่ใจลอยตามมาช่วยหวดทิ้งจวนเจียน

ถัดมานาทีที่ 52 "จิ้งจอก" เสียโอกาสทองคำเป็นบอลทำชิ่งสุดงามทางด้านซ้าย ยูริ ตีเลอมันส์ เชื่อมในจุดโทษติดเร็วตั้งให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้โอกาสปั่นด้วยขวาโค้งติดปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ หน่อยเดียว

นาทีที่ 68 "ลิเวอร์พูล" หาสกอร์ปิดกล่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใส่มาเก็บบอลทางฝั่งขวาจักจี้เข้าจุดโทษโยกเข้าซ้ายข้างถนัดเสียดายปั่นไม่ดีโค้งไปตรงตัว ดาเนียล ไอเวอร์สังเวย รับเอาไว้ได้

2 นาทีถัดมา กลุ่มเยี่ยม มาได้ประตูยำเพิ่ม 3-0 จากจังหวะฟรีคิกระยะอันตรายหน้าจุดโทษฝั่งซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงกลับข้างหลังเปลี่ยนแปลงจุดให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นโค้งแทงเสาไกลสวยหยด

10 นาทีท้ายที่สุด หงส์แดง แทบปิดกล่องอีกเม็ด วัวดี้ กัคโป แทงมอบพานให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดโดดเดี่ยวเข้าจุดโทษไปล่อเป้า ดาเนียล ไอเวอร์บวงสรวง แต่ว่าจังหวะยิงปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาแรกอัศจรรย์

ด้านหลังเกม นาทีที่ 87 "หมาจิ้งจอก" ทำสุดกำลังเพื่อแฟนบอล เจมี่ วาร์ดี้ ใส่เข้าจุดโทษฝั่งขวามานะตวัดเร็วยัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน อลิสซง เบ็คเกอร์ ปกป้องเอาไว้ได้หมด

จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เลสเตอร์ 0 หงส์แดง 3

รายนามนักฟุตบอลที่ลงสู่สนาม

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : ดาเนียล ไอเวอร์บวงสรวง - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ลุค โทมัส น.61), เวาต์ ฟาส, จอนนี่ อีแวนส์ (แฮร์รี ซูตทาร์ น.89, ทิโมธี กาสตาญ - ยูริ ตีเลอมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ (แพ็ตสัน ดาก้า น.61), บูบากาปรี่ ซูมาเร่ - เจมส์ แมดดิสัน, เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เตเต้ น.61)

หงส์แดง (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เจมส์ ไม่ลเนอร์ น.74), ฟาบินโญ่, เคอร์ติเตียนส โจนส์ (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ น.84) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.88), วัวดี้ กัคโป, หฝ่าส์ ดิอาซ (ดิโอหรูหรา โชต้า น.74)

ผู้ตัดสิน : เคร็ก เพียงพอว์สัน

 

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa