[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
 
 
 
เมนูหลัก
กลุ่มสาระการเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 

ลิงค์ที่น่าสนใจ

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
“ผีแดง” จากขอแค่ 1 จบลงที่ 3  VIEW : 125    
โดย วว

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 319
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 14
Exp : 45%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 217.138.201.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 1 เดือน กันยายน พ.ศ.2564 เวลา 18:57:32   

ทันทีที่ ดาบิด เดเกอา นอนเซฟบนเส้นลูกยิงเผาขนระยะแค่หลาเดียว มันคือสูตรสำเร็จพล็อตหนัง “โรแมนซ์” ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเดี๋ยว “พระเอก” ต้องมาตอนจบ

เป็นอีกเกมที่นักเตะรุ่นพี่ค่าตัวแพงๆทำอะไรไม่ได้จนต้องกลายเป็นเจ้าหนู เมสัน กรีนวู้ด ที่กำลังจะอายุ 20 ปีเต็มในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นคนยิงประตูโทนและเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันแล้ว

เด เกอา เปลี่ยนจาก 0 เป็น 1 แต้มและ “ไม้เขียว” รับช่วงต่อจาก 1 เป็น 3 แต้ม ในวันที่ฟอร์มและโอกาสทำประตูเป็นรอง วูลฟ์แฮมป์ตัน ทั้งหมด

จังหวะนี้ของ เด เกอา อาจไม่ได้สำคัญอะไรด้วยซ้ำเพราะจริงๆแล้วครึ่งแรก ยูไนเต็ด น่าจะสกอร์ตามหลังไปตั้งนานแล้วแต่ “ดวง” คนจะมาตอนจบนี่แรงเกินเบอร์มาก

แต่ชัยชนะที่ได้มาหนนี้แอบมี “ดราม่า” ตามมาทีหลังเพราะก่อนนาทีลั่นไกของ กรีนวู้ด ไม่นานเกิดเหตุการณ์พุ่งเปิดปุ่มของ พอล ป็อกบา ใส่ รูเบน เนเวส ต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน

ตอนนี้ตามโซเชี่ยลมีคลิปซูเปอร์สโลโมชั่นจังหวะเข้าบอลของ “ป๊อก” ออกมาเยอะมากและตามที่เราเห็นกันคือไม่โดนบอลแต่ล่อเข้าสนับแข้ง เนเวส จนเบี้ยวเต็มๆ

ที่แฟน วูลฟ์ (เฉพาะกิจ) อยากถามคือทำไม ไมค์ ดีน ผู้ตัดสิน ถึงไม่ไปดู VAR ด้วยตัวเองแต่เลือกเชื่อผู้ตัดสินที่ห้องส่งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายซึ่งถือเป็นเวลาทีสำคัญมีได้มีเสียกันขนาดนี้

ปัจจัยสำคัญที่ผมมองว่าไม่มีอะไรมาโน้มน้าวให้แกเปลี่ยนคำตัดสินคือ อากัปกริยาของ เนเวส ที่ไม่ได้กระโดดเหยงดิ้นพรวดพราดเหมือนนักบอลทั่วไปแต่ยังยืนปกติแล้วค่อยลงไปนอนทีหลัง

มันเลยไม่มีน้ำหนักในสายตา ดีน ที่ขานรับกฏใหม่ไม่เป่าจังหวะหยุมหยิมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้ประตูให้เสียเวลา

ทำให้เรานึกถึงจังหวะที่ ชาก้า พุ่งเปิดปุ่มเสียบใส่ คันซาโล่ ซึ่ง action ของแข้ง แมนฯซิตี้ ที่กระโดดหลบเซฟตัวเองไปด้วย+กรีดกรายไปด้วยช่วยให้การตัดสินง่ายกว่าเคสที่ โมลินิวซ์ กราว์น

ผมว่ามันก็เหมือนซื้อหวย วันไหนลงเล่นในแมทช์ที่ผู้ตัดสินเซนส์สูงหรือเป็นลูกอีช่าง “เอ๊ะ” ก็อาจจะขอไปเช็กด้วยตัวเอง แต่ถ้าเจอเคส “ดีน” ก็ให้มองซะว่าถูกเจ้ามือกิน ลุ้นงวดหน้าต่อ

หลายคนเห็นใจ “หมาป่า” ที่นอกจากไม่ได้ซักแต้มแล้ว ตอนนี้พวกเขาเป็น 1 ใน 3 ทีมที่แพ้รวดแถมสกอร์น่าเจ็บใจ 1-0 ทั้ง 3 นัดอยู่อันดับ 18 โดยมี นอริช และ อาร์เซนอล รั้งท้ายติดๆกัน

ปัญหาของ วูลฟ์แฮมป์ตัน ที่เราเห็นไม่ใช่ของใหม่ มันถอดมาจากซีซั่นที่แล้ว คือเป็นทีมทรงบอลไม่ขี้เหร่ ทีมเวิร์คสู้กับใครหน้าไหนก็ได้สบายๆแต่เรื่องจบสกอร์นี่ซาเล้งสุดๆ

ถ้าแก้ปัญหาบอลสุดท้ายได้เมื่อไหร่ ผมยังมองว่า วูลฟ์ จะค่อยๆดีขึ้น เล่นบอลกันทรงนี้จะไม่ชนะใครก็ให้มันรู้ไป

นอกจาก ตราโอเร่ ที่กลับมาเข้าฟอร์มของ 2 ปีก่อนแล้ว ตรินเซา ปีกที่ยืมมาจาก บาร์เซโลน่า ก็เป็นอีกตัวที่ผมแอบ***ง

เทคนิคเอาตัวรอดตามสไตล์พวกบอลยุโรป เลี้ยงด้วยอีซ้ายตัดเข้าใน ดูแล้วเพลินตา นักเตะประเภทนี้จะช่วยทีมได้เยอะมากนะครับเวลาต้องเจอกับทีมที่เพรสหนักๆ ท้ายที่สุดผมเชื่อว่าจะ “แบก” ทีมร่วมกับพี่ๆพากลับฝั่งได้แน่

ส่วนเจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง เปโดร เนโต้ ที่เจ็บเข่าตั้งแต่เดือน เมษายน และกำหนดคืนสนามคือตุลาคมแต่จากข่าวล่าสุดเหมือนอาการ “setback” อาจนานกว่านั้น

กลับมาที่รูปเกม ครึ่งแรกเราก็เห็นๆกันว่า “ปีศาจแดง” แทบจะร้องขอชีวิตหลังเจอทีเด็ด อดาม่า ตราโอเร่ กระชากพาทัวร์เน้นเจาะตรงกลาง ยิ่งดูเหมือน ลีโอเนล เมสซี่ เวอร์ชั่น “ยักษ์”

แต่ปัญหาของพี่ “ออยศรี” ที่ชอบทาน้ำมันทั่วร่างคือจังหวะยิงนี่แหละครับ ถ้าเล่นเกม FM ค่าพลัง finishing ผมให้ไม่เกิน 9 (เต็ม 20)

ตราโอเร่ ผมว่าเล่นตรงกลางมีพื้นที่เจาะหลายทิศทางดูน่ากลัวกว่าไปอยู่ปีกขวานะ เพราะบอกตามตรงว่ากระชากออกขวาแล้วเปิดหลังเส้นมันไม่ค่อยได้ผล เจอแบ็คฉลาดๆเขาดักกินหมด

ครึ่งหลังอาจจะเงียบๆไปบ้างแต่ครึ่งแรกมิดฟิลด์ของทีมเยือนไม่สามารถแบ่งเบาภาระให้แนวรับได้เลยโดยเฉพาะ “กรวย” เฟ็ด คือผมกำลังสื่อคำว่า “กรวย” นะ ไม่ใช่คำด่า

ปกติ เฟร็ด ก็ไม่ได้ชนเก่งอะไรอยู่แล้ว พอมาเทียบ “ไซส์” และสปีดมันยิ่งเห็นความแตกต่างชัดเจน แต่ก็อย่างว่าตอนนี้มันไม่มีตัวให้เลือกแล้วสำหรับตำแหน่ง DM

ตอนนี้ผมมองว่าถ้าคุณจะให้พวก ป๊อก, บรูโน่ หรือ กรีนวู้ด เต็มที่กับเกมรุกก็ต้องมีตัวตัดเกมดีๆโหดๆซักตัวมันถึงจะสมดุลกว่านี้

ความรู้สึกที่เห็นคือ “กลาง” ยังห่างไกลจากคำว่า “connect” แนวรับและแนวรุกเข้าด้วยกัน คนที่ใช่อยู่ที่ไหนและเมื่อไหร่ลงตัวแน่ๆครับ

สำหรับ debut ของ ราฟาเอล วาราน ที่ว่าไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก นักเตะ world calss พูดคุยเป็นภาษาฟุตบอล ทำหน้าที่คู่กับ แม็คไกวร์ ได้เนียนสุดๆ

ลูกโด่งกินเรียบ ลูกบล็อกลูกสกัด เห็นแล้วเพื่อนๆแฟนๆและผู้รักษาประตูรู้สึกอุ่นใจ

แต่ในรายของ เจดอน ซานโช่ ต้องไปว่าต่อนัดในบ้านกับ นิวคาสเซิ่ล เพราะวันนี้เงียบกริบแถมครึ่งแรกเกือบไปชงให้ “หมาป่า” เบิกสกอร์แรก

ถือว่าเป็น 2 เกมนอกบ้านที่ลากเลือดสุดๆของ “ผีแดง” ที่เจอบอลเข้าไวเข้าหนักมักเครื่องรวนสตาร์ตติดยากแต่ยังเอาตัวรอดชนะ 1 เสมอ 1 เกาะกลุ่มอยู่ที่ 3 ไม่ได้เสียหายอะไร

มองในแง่ดี เล่นห่วยเกือบแพ้แต่พลิกกลับมาชนะ มันมี “ฟีลลิ่ง” ของคุณสมบัติทีม “ลุ้นแชมป์” ซ่อนอยู่

แต่จะซ่อนแล้วหาเจอหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง…

สถิติ สถิติ สถิติ

เมสัน กรีนวู้ด เป็นแข้งดาวรุ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์คนที่ 2 ที่ยิงประตู 3 เกมแรกของซีซั่นโดยคนแรกเป็น ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ของ ลิเวอร์พูล ที่ทำไว้ในซีซั่น 1994-95

เจ้า “ไม้เขียว” ยังดันตัวเองขึ้นไปอยู่ในทำเนียบ ” 4 ดาวรุ่ง” ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 20+ เคียงข้างรุ่นน้าอย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ เวย์น รูนีย์

นี่เป็นเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (ชนะ 52 เสมอ 28 แพ้ 19) โดย 8 กุนซือก่อนหน้า “เฮียยิ้ม” ในเวทีสูงสุดมีเพียง เออร์เนสต์ แม็กนัลล์ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่คุมทีมชนะมากกว่า (54)

นับตั้งแต่ซีซั่น 2003-04 เป็นต้นมามีเพียง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมเดียวเท่านั้นที่แพ้ติดต่อกัน 5 นัดรวด (โดยที่มีโอกาสยิงประตูมากกว่าฝ่ายตรงข้าม) (2010/11) ตอนนี้อันดับ 2 กลายเป็น วูลฟ์ ที่จัดไปแล้ว 4 เกมติด

“ปีศาจแดง” ไร้พ่ายเกมนอกบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 28 (ชนะ 18 เสมอ 10) กลายเป็น “new record” ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก โดดๆทีมเดียวไปเรียบร้อยแล้ว

3 จาก 4 ประตูหลังสุดของ ซน เฮือง มิน ที่ยิงให้ สเปอร์ส ในทุกรายการมาจากนอกเขตโทษทั้งหมดและประตูโทนที่ยิง วัตฟอร์ด เป็นฟรีคิกแรกของเจ้าตัวอีกด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 6 ใน 10 นัดของ ซน ที่เจอ “แตน” แต่ที่แข้งเกาหลีใต้ยิงใส่มากที่สุดคือ เซาธ์แฮมป์ตัน 9 ลูก

สเปอร์ส ทำสถิติสโมสรหลังคว้าชัย 3 นัดแรกในลีกโดยไม่เสียประตู

และแน่นอนนี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดที่ “ไก่” จบจ่าฝูงในวันเดียวกับที่ “ปืน” รั้งที่โหล่

ลูกที่ คริส วู้ด หอก เบิร์นลีย์ ยิงขึ้นนำ ลีดส์ 1-0 เป็นประตูที่ 30,000 ของพรีเมียร์ลีกพอดี

 

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Spade Gaming