[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
 
 
 
เมนูหลัก
กลุ่มสาระการเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 

ลิงค์ที่น่าสนใจ

  

   เว็บบอร์ด >> สอบถาม พูดคุยเกี่ยวกับการเรียนการสอน >>
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้   VIEW : 1026    
โดย สมสม

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 159.192.99.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 6 เดือน มีนาคม พ.ศ.2562 เวลา 13:28:18   

บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ดังนี้(1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5(2)เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ก่อนและหลังใช้รูปแบบ  และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา  โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 1 วิจัย (Research : R1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือการประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ผลการวิจัย การวิเคราะห์เอกสารต่าง ๆ แล้วนำผลที่ได้จากการวิเคราะห์มาสังเคราะห์ไปสู่ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา (Develop : D1) คือ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยนำผลจากขั้นตอนที่ 1 (Research : R1) มาพัฒนานวัตกรรม ทำให้นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มตัวอย่าง และในขั้นพัฒนา (Develop : D1) นี้ต้องพัฒนานวัตกรรมให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพก่อน แล้วจึงไปขั้นที่ 3 วิจัย (Research : R2) โดยนำนวัตกรรมไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง ในขั้นตอนนี้มีการประเมินระหว่างใช้และเมื่อใช้แล้วดำเนินการในขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (Develop : D2) โดยประเมินประสิทธิผลของรูปแบบกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2560จำนวน 35คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (ClusterRandom Sampling)โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 50 ข้อ3) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 4) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 5) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนด้านค่านิยมความเป็นพลเมืองดีและ 6) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า t - test

ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอน  พบว่า  1) ครูสอนแบบบรรยายไม่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ  2) นักเรียนขาดทักษะความสามารถในการคิดวิเคราะห์  ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด  3) สื่อ/แหล่งเรียนรู้นำมาใช้น้อยมากและไม่ตรงกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น  4) นักเรียนไม่สนใจเรียน  5) นโยบายของเทศบาลและโรงเรียนที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ  6) การพัฒนาทักษะกระบวนการกลุ่มมีน้อยมาก  7) การพัฒนานักเรียนด้านคุณลักษณะหรือค่านิยมที่ดีขาดความจริงจัง  และผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบโดยครูและผู้เชี่ยวชาญ  พบว่า  1) ต้องการให้ครูผู้สอนได้พัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ให้มีความรู้คู่คุณธรรม 2) ครูควรใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการคิดให้มากหรือสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง  3) ใช้สื่อและการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย  และ 4) ให้เน้นกระบวนการกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  นอกจากนี้การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติอยู่ในระดับต่ำ   ปัจจัยสำคัญหนึ่งคือวิธีการสอนหรือวิธีการจัดการเรียนรู้  สอนให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ ไม่ใช่สอนให้ผู้เรียนท่องและจำแต่เพียงเนื้อหา  ให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมิน สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้  และจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการสอนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับปัญหาที่พบในการเรียนการสอน คือความพร้อมของผู้เรียน อันเกิดจากการสอนของครูที่เป็นเพียงการบอกให้จดจำและเลียนแบบเท่านั้น  ทำให้นักเรียนไม่มีโอกาสฝึกใช้ความสามารถในการเรียนรู้  ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกันได้  ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความเข้าใจสนุกกับการเรียน ตามแนวคิดการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญหรือแนวคิดตามสภาพจริง  เพราะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  โดยการให้ผู้เรียนเข้าไปเผชิญปัญหาในสภาพจริงหรือสถานการณ์จำลอง เช่น  บทบาทสมมติ  แล้วร่วมกันศึกษาเรียนรู้แก้ไขปัญหานั้น  ในการพัฒนารูปแบบการสอนจึงต้องกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน  และนำสื่อมาใช้ในลักษณะของสื่อประสม  เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้  ดังนั้นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบผสมผสานวิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีประกอบด้วยองค์ประกอบ5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ  2) ขั้นมีวินัยร่วมเรียนรู้  3) ขั้นนำเสนอคู่บทบาทสมมติ  4) ขั้นสรุปข้อคิดอภิปรายผล  และ 5) ขั้นชื่นชมนำไปใช้
              3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  ก่อนและหลังใช้รูปแบบ  มีดังนี้
                 3.1พฤติกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ด้านการเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี  ตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดีมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.58 คิดเป็นร้อยละ 85.92 นั่นคือ ผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ 3 (ดีเยี่ยม)
                 3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  หลังใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
              4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน”เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  โดยผู้เชี่ยวชาญ มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29